๒
เยรูซาเล็มพินาศ
๑ พระผู้เป็นเจ้าคลุมธิดาแห่งศิโยน
ด้วยเมฆหมอกแห่งความกริ้วของพระองค์
พระองค์สะบัดความรุ่งเรืองของอิสราเอล
จากฟ้าสวรรค์ลงสู่แผ่นดินโลก
พระองค์ไม่ระลึกถึงที่วางเท้าของพระองค์
ในวันที่พระองค์กริ้ว
๒ พระผู้เป็นเจ้าได้ทำลายที่อยู่อาศัย
ของยาโคบ* ยาโคบเป็นอีกชื่อหนึ่งของอิสราเอล ฉบับปฐมกาล 32:28อย่างไม่ปรานี
พระองค์พังป้อมปราการอันแข็งแกร่ง
ของธิดาแห่งยูดาห์เป็นการลงโทษ
พระองค์ทำให้อาณาจักรและบรรดาผู้ปกครองแผ่นดิน
ล้มลงจมกองธุลีอย่างไร้เกียรติ
๓ พระองค์ทำให้อิสราเอลอ่อนกำลังลง
ด้วยความกริ้วอันร้อนแรง
พระองค์ไม่ช่วยเหลือพวกเขาอีก
ในเวลาที่ปะทะกับศัตรู
พระองค์โกรธมากดั่งเปลวไฟที่ลุกในยาโคบ
ซึ่งเผาผลาญทุกสิ่งโดยรอบ
๔ พระองค์โก่งคันธนูประดุจศัตรู
มือขวาของพระองค์เล็งประดุจปรปักษ์
พระองค์ได้สังหารทุกคนที่พวกเรารัก
ความกริ้วของพระองค์ได้พลุ่งขึ้นดั่งเปลวไฟ
ในกระโจมของธิดาแห่งศิโยน
๕ พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้อิสราเอล
พินาศประดุจศัตรู
พระองค์ได้ทลายวังทั้งหลาย
และป้อมปราการอันแข็งแกร่งลง
พระองค์ทำให้มีการร้องรำพันและร้องคร่ำครวญมากยิ่งขึ้น
ในเขตแดนของธิดาแห่งยูดาห์
๖ พระองค์ได้พังที่พำนักของพระองค์เหมือนกระทำกับสวน
พังสถานที่นัดพบของพระองค์
พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้เทศกาลที่กำหนดไว้และวันสะบาโตในศิโยนยุติลง
พระองค์โกรธมหันต์จึงได้ทำให้เกียรติของกษัตริย์และบรรดาปุโรหิตเสื่อมลง
๗ พระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับแท่นบูชาของพระองค์
และทอดทิ้งที่พำนักของพระองค์
พระองค์ปล่อยให้ศัตรู
ทลายกำแพงเมืองของนางลง
พวกเขาตะโกนร้องในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
ประหนึ่งวันฉลองเทศกาล
๘ พระผู้เป็นเจ้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า
จะทลายกำแพงเมืองรอบธิดาแห่งศิโยน
พระองค์ใช้เชือกเป็นมาตรฐานในการวัด
และไม่ยั้งมือที่จะทำลาย
พระองค์ทำให้ที่คุ้มกันและกำแพงเมืองร้องร่ำรำพัน
และทรุดโทรมไปด้วยกัน
๙ ประตูเมืองของนางทรุดลงที่พื้นดิน
พระองค์ได้หักและพังดาลประตูลง
กษัตริย์และบรรดาผู้สูงศักดิ์ลี้ภัยไปอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
ไม่มีกฎบัญญัติอีกต่อไป
บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
ไม่ได้รับภาพนิมิตจากพระผู้เป็นเจ้าอีกต่อไป
๑๐ บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยน
นั่งนิ่งเงียบบนพื้นดิน
และได้ปาฝุ่นผงลงบนหัวของตน
และสวมผ้ากระสอบ
บรรดาพรหมจาริณีแห่งเยรูซาเล็ม
ก็ได้ก้มหัวลงกับพื้นดิน
๑๑ ตาของข้าพเจ้าพร่าพรายจากการร้องไห้
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าว้าวุ่น
ข้าพเจ้าใจแทบขาดด้วยความเศร้า
ก็เพราะธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้าถูกสังหาร
ทารกและเด็กหมดเรี่ยวแรง
อยู่ในที่สาธารณะ
๑๒ เด็กเหล่านั้นร้องถามบรรดาแม่ๆ ของพวกเขาว่า
“ไหนล่ะ อาหารและน้ำ”
เมื่อพวกเขาหมดเรี่ยวแรงเหมือนกับคนบาดเจ็บ
อยู่ในที่สาธารณะ
เมื่อชีวิตของพวกเขาแทบจะสลาย
ในอ้อมอกแม่
๑๓ ข้าพเจ้าจะเป็นพยานพูดอะไรให้ท่านได้
ข้าพเจ้าจะเปรียบท่านกับอะไร
โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม
มีอะไรที่ข้าพเจ้าจะเห็นด้วยกับท่าน
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ปลอบประโลมท่าน
โอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน
แผลของท่านลึกเทียบเท่าท้องทะเล
ใครจะรักษาท่านให้หายได้
๑๔ บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าบอกพวกท่านถึงภาพนิมิต
ซึ่งเท็จและลวงหลอก
พวกเขาไม่ได้บอกท่านว่า ท่านกระทำบาป
เพื่อท่านจะได้หลุดพ้นจากการเป็นเชลย
แต่พวกเขากลับพูดถึงภาพนิมิต
ซึ่งเท็จและทำให้ท่านหลงผิด
๑๕ ทุกคนที่เดินผ่านมา
ก็ตบมือใส่ท่าน
พวกเขาเหน็บแนมและส่ายหัว
ให้กับธิดาแห่งเยรูซาเล็ม
“นี่หรือ เมืองที่เรียกว่า
ดีเพียบพร้อมและงามตระการ
เป็นที่ยินดีไปทั่วแผ่นดินโลก”
๑๖ ศัตรูทุกคนของท่าน
พูดล้อเลียนท่าน
พวกเขาเหน็บแนมและเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่
และพูดว่า “พวกเรากลืนนางได้แล้ว
เออ พวกเรารอคอยวันนี้มานานแล้ว
เรามีชีวิตอยู่ก็เพื่อจะได้เห็นอย่างนี้นี่เอง”
๑๗ พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งที่พระองค์มุ่งหมาย
พระองค์ได้ทำให้เกิดขึ้นตามคำกล่าวของพระองค์
ซึ่งพระองค์บัญชาไว้นานมาแล้ว
พระองค์ได้ทำให้ท่านหายนะอย่างไม่ปรานี
พระองค์ทำให้ท่านเป็นที่สะใจของพวกศัตรู
พระองค์ได้ให้พละกำลังของเหล่าปรปักษ์แข็งแกร่ง
๑๘ ใจของพวกเขาร้องต่อพระผู้เป็นเจ้า
โอ กำแพงเมืองของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย
ให้น้ำตาไหลพรากอย่างกระแสน้ำ
ตลอดวันและคืนเถิด
ท่านไม่ต้องพัก
ไม่ต้องหยุดร้อง
๑๙ จงลุกขึ้น ร่ำไห้ในยามค่ำ
ตลอดทุกยาม
จงเปิดใจของท่าน
ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
ยกมือของท่านอธิษฐานต่อพระองค์
เพื่อชีวิตของลูกๆ ของท่าน
ซึ่งหมดเรี่ยวแรงเพราะความหิว
อยู่ตามถนนหนทาง
๒๐ โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดเหลียว
ดูเถิด พระองค์เคยกระทำเช่นนี้ต่อใครบ้าง
บรรดาผู้หญิงควรจะกินลูกในไส้ของตน
ที่เคยเลี้ยงดูมาอย่างนั้นหรือ
ปุโรหิตและผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าควรจะถูกฆ่า
ในที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้าหรือ
๒๑ ทั้งเด็กและคนชรา
นอนตายบนถนน
บรรดาชายหนุ่มและหญิงสาว
ถูกดาบฆ่าตาย
พระองค์ได้สังหารพวกเขาในวันที่พระองค์กริ้ว
พระองค์ประหารพวกเขาอย่างไร้ความปรานี
๒๒ พระองค์เรียกศัตรูของข้าพเจ้ามาจากทุกแห่งหน
อย่างกับว่าพระองค์เรียกให้มาในวันฉลอง
ไม่มีใครหนีรอดหรือคงชีวิตอยู่ได้
ในวันแห่งความกริ้วของพระผู้เป็นเจ้า
พวกศัตรูของข้าพเจ้าได้ทำให้
บรรดาผู้ที่ข้าพเจ้าดูแลและอุ้มชูพินาศ